"รถจมน้ำ" ต้องซ่อมอะไรบ้าง?

 "รถจมน้ำ" ต้องซ่อมอะไรบ้าง?

ซื้อหวยออนไลน์ เว็บไหนดี มาที่นี้เลย เว็บหวยออนไลน์จ่ายจริง.com 900/95

     สาหัสกันทั่วหน้าเลยกับเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ หลายคนจิตตกวิตกกังวลกันมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ บ้างรถจมน้ำไปแล้วก็มี แต่ถ้ารถคุณประสบภัยพิบัติไปแล้วก็ไม่ต้องคิดมากเพราะหลังน้ำลดนั้นให้รีบไปจัดการซ่อมแซมก็สามารถขับได้เป็นปกติ

     การซ่อมรถยนต์น้ำท่วมนั้นนับว่าเป็นเรื่องของอาชีพช่างยนต์กันเสียส่วนใหญ่ ที่งานเข้าหลังจากเหตุน้ำท่วม แต่เพื่อความสบายใจ เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักว่าอะไรบ้างที่ต้องซ่อมและดูแล หลังเหตุการณ์น้ำท่วมและอะไรบ้างที่สำคัญ

วิธีดูแลรถหลังน้ำท่วม

  1. ตรวจความเสียหาย ข้อแรกที่สำคัญและต้องทำหลังน้ำลดลงไปจนกลับสู่สภาวะปกตินั้นคือการตรวจสอบความเสียหายของรถ ดูให้หมดทั้งภายในภายนอก เปิดฝากระโปรงเช็กเครื่องให้ครบครัน และถ้ารถคุณมีประกันภัยชั้น 1 ก็อย่าลืมแจ้งประกันด้วย จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาในเรื่องค่าใช้จ่ายในการซ่อม

  2. อย่าสตาร์ทเครื่องยนต์ เรามักย้ำเป็นประจำในข้อนี้เกี่ยวกับการดูแลรถหลังน้ำท่วม เนื่องจากการสตาร์ทเครื่องยนต์แบบสุ่มสี่สุ่มห้านั้นอาจทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย โดยรู้เท่าไม่ถึงการ โดยเฉพาะเศษผงต่างที่มากับน้ำสามารถสร้างความเสียหายต่อระบบเครื่องยนต์ได้ อีกประการคือรถที่แช่น้ำนานๆ จะมีความชื้นจะสามารถสร้างความเสียหาย ทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้เช่นกัน

  3. ส่งสู่มือช่าง เมื่อตรวจสอบเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาที่เราต้องส่งสู่มือช่างผู้ชำนาญการให้ดำเนินการ โดยในการส่งรถที่รักไปซ่อมแซมความเสียหายนั้น ควรรายงานระดับน้ำที่รถคุณไปว่ายน้ำมา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบทางด้านต่างๆ ของช่าง ทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
  4. อะไรบ้างที่จะเสีย แน่นอนเราไม่แนะนำให้คุณซ่อมรถน้ำท่วมเอง เพราะคุณจะปวดหัวกับมันอย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยก็ควรต้องรู้บ้างว่าอะไรที่จะเสียหายบ้าง เพื่อประเมินค่าใช้จ่าย

     - ด้านเครื่องยนต์ ตามปกติแล้วความเสียหายของเครื่องยนต์นั้น จะเกิดขึ้นในระบบ Intake หรือระบบดูดอากาศ ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องเปลี่ยนคือ "กรองอากาศ" เพราะขี้ผงจากน้ำนั้นจะเข้าไปติดอยู่ในส่วนนี้เสียมาก ช่างจะต้องถอดหม้อกรองออกมาล้างทำความสะอาดอย่างแน่นอน ล้างลิ้นปีกผีเสื้อ แต่ถ้าแจ็กพอตก็เจอ น้ำเข้าเครื่อง ก็ต้องมีการถอดประกอบเครื่องยนต์ เพื่อความสะอาด ซึ่ง อาจจะรวมถึงชุด "หัวเทียน" ที่จะเสื่อมสภาพจากสภาวะความชื้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนพวกเซนเซอร์นั้นก็ต้องเช็กตามปกติ

      ที่สำคัญต้องได้มีถ่ายของเหลวทุกชนิด ทั้งน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย อาจจะรวมถึงน้ำยาหม้อน้ำด้วย เพื่อความไม่ประมาท เพราะน้ำอาจจะซึมเข้าไปทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ เกิดความเสียหายได้


  5. ทำความสะอาดภายในได้เวลาลุย เมื่อรถคุณพ้นจากมือช่างเครื่องยนต์มาได้ขับได้เป็นติดสุขแล้ว ก็ให้มาจัดการในเรื่องภายในห้องโดยสารก่อน อย่างที่ได้บอกไปแล้วแต่เริ่มต้นว่าน้ำที่ท่วมนั้น เป็นน้ำที่ไม่ค่อยสะอาด และยิ่งคุณทิ้งไว้นานก็ยิ่งจะทำให้มีกลิ่นอับ ดังนั้นขั้นแรก คุณต้องอาศัยคาร์แคร์ต่างๆ ในการถอดพรม-ซักเบาะ และทุกอย่างให้เอี่ยมอ่อง

หลังจากนั้นก็ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกลิ่นด้วย ถ้าเป็นไปได้ ถือโอกาสล้างตู้แอร์ก็จะเป็นการดีใช่น้อย โดยเฉพาะถือโอกาสนี้เปลี่ยนน้ำยาแอร์เผื่อน้ำอาจจะซึมเข้าระบบ และที่สำคัญรถบางคันนั้นมีกรองแอร์อันนี้ต้องเปลี่ยนสถานเดียว เพราะส่วนใหญ่ เมื่อโดนน้ำแล้วกลิ่นจะติดครับ

     6. สนิม ภัยร้ายที่รอวันย่างกราย เราอาจจะเสร็จเรื่องเครื่องและภายในห้องโดยสารกันไปเรียบร้อย แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่องของตัวถังด้วย โดยเฉพาะรถใครที่มีบาดแผลจากการชนก่อนน้ำท่วม อันนี้พึงระวังให้ดี เพราะสนิมนั้นจะถามหาอย่างไม่ต้องสงสัย หลังน้ำท่วมทางที่ดี แวะไปทำสีในจุดที่เกิดการชนก็ดีใช่น้อย เพราะจุดนั้นอาจจะเป็นสนิม ซึ่งสามารถทำให้เกิดการผุและเสียหายได้ในท้ายที่สุด

     ทั้งนี้ด้วยการดูแล ขั้นตอนที่ควรทำจากเราก็น่าจะทำให้รถของเพื่อนๆ กลับมาเหมือนเดิมไม่มากก็น้อย แต่ข้อสำคัญนั้นคือเวลา และทุนรอน บางทีค่อยๆ ทำ ทำสิ่งที่สำคัญก่อนก็จะช่วยให้รถอยู่คู่คุณไปอีกนาน

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เอกสารต่อใบขับขี่ 2565 ใช้อะไรบ้าง และขั้นตอนการต่อใบขับขี่

หยุดด่วน! 5 พฤติกรรมอันตรายที่ทำร้ายรถคุณโดยไม่รู้ตัว

วิธีไล่ยุงออกจากรถแบบไม่ต้องมานั่งปัดให้เสียสมาธิ